คำว่าไฮดรอลิกส์มีที่มาจากรากศัพท์ภาษากรีกคือ Hydor หรือ Hydraulikos ซึ่งให้ความหมายว่า น้ำ โดยคำว่า au คือ ท่อวิชาไฮดรอลิก เป็นวิชาคุณสมบัติกลศาลตร์ความดันอัดของเหลว คล้ายกับนิวเมติกส์แค่เพียงเปลี่ยนจากลมมาเป็นของเหลว บทความนี้จะพาให้ทุกคนได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับไฮดรอลิกมากยิ่งขึ้น
ไฮดรอลิกส์ มีที่มาอย่างไร
มีหลักฐานเกี่ยวกับการค้นคว้าวิชาไฮดรอลิกส์ซึ่งได้เอามาใช้กับชลประทาน ปลูกพืชจากการขุดคลองลงแผ่นดินห่างไกลตั้งแต่ยุคสมัยต้น ๆ นั่นก็คือ ยุคที่มนุษย์เริ่มเขียนอักษร ชาวอียิปต์และเมโสโปเตเมียมีอายุได้ 6,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ขณะเดียวกันคนจีนก็ทำชลประทาน พัฒนาให้ล้อไม้ตักน้ำเกิดการหมุนโดยใช้แรงดันน้ำไหล หลังจากนั้นมีการนำกลไกในการใช้ล้อหมุนจากแรงน้ำเพื่อบีบเครื่องเป่าลมลงเตาถลุงโลหะ ชาวโรมันและกรีกขุดคลอง ชาวโรมันใช้ท่อส่งน้ำที่มาจากภูเขาเข้ามาตัวเมืองเพื่อใช้สำหรับก่อสร้าง อีกทั้งยังส่งให้ชาวเมืองได้ใช้ด้วย
ปั๊มไฮดรอลิก มีกี่ชนิด
ปั๊ม ไฮดรอลิกส์เป็นเหมือนหัวใจของระบบไฮดรอลิก มีหน้าที่เปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานของไหล โดยอยู่ในรูปความดันและอัตราการไหล แล้วเปลี่ยนมาเป็นพลังงานกลสำหรับใช้งาน ปกติปั๊มไฮดรอลิกจะแบ่งได้ทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้
- ชนิดปริมาตรเปลี่ยนแปลง
คือการส่งของเหลวจากปั๊มในแต่ละวงจร การเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดด้วยการตั้งกลไกในปั๊ม
- ชนิดปริมาตรคงที่
คือการส่งของเหลวจากปั๊มในแต่ละวงจรมีความคงที่ตลอด เปลี่ยนแปลงกลไกในปั๊มไม่ได้
ปั๊มไฮดรอลิกทั้งสองแบบจะแบ่งชนิดของปั๊มตามโครงสร้างได้ 3 ชนิด ได้แก่ ปั๊มใบพัด, ปั๊มเฟืองเกียร์ และปั๊มลูกสูบ ซึ่งในที่นี้จะพูดถึงปั๊มเฟืองเกียร์ โดยจำแนกได้ดังต่อไปนี้
- ปั๊มเฟืองนอก
เป็นปั๊มชนิดปริมาตรคงที่ มีเฟืองมีฟันนอกขบกันอยู่หนึ่งคู่ ใส่พอดีกับเสื้อปั๊ม ยึดกับเพลาซึ่งต่อกับตัวขบ แล้วเพลาจะมีบูชหรือแบริ่งรองรับเสื้อปั๊ม เฟืองอีกตัวติดกับเพลาหมุนอิสระ มีบูชหรือแบริ่งรองรับด้วย ในเสื้อปั๊มทางให้น้ำมันไฮดรอลิกเข้าออก
- ปั๊มเฟืองในแบบโรเดอร์
ช่วงแรกจะไม่มีแผ่น จึงถูกเรียกว่าโรเดอร์ เฟืองตัวนอกคือ rotor ring ลักษณะกลมมน ทำงานเหมือนปั๊มมีแผ่นกั้น ทั้งเฟืองตัวในและนอกจะหมุนไปทางเดียวกัน ส่วนที่สัมผัสจะป้องกันไม่ให้น้ำมันไหลย้อนกลับ เฟืองตัวนอกมีร่องฟันเยอะกว่าตัวในหนึ่งร่อง จึงสามารถอยู่ในร่องได้อย่างพอดี
จากบทความเป็นความรู้และรายละเอียดที่เกี่ยวกับไฮดรอลิกส์ ซึ่งก็สามารถแบ่งออกได้หลายชนิดตามรูปแบบการใช้งาน อย่างที่ทราบว่าไฮดรอลิกถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบไฮดรอลิก เพื่อเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้ามาเป็นพลังงานของไหล นำไปสู่พลังงานกล ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกในอุตสาหกรรมทุกแบบ